ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2567-2568: วิกฤตหรือโอกาสสำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อ?

  • พฤษภาคม 19, 2025
  • (0)

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2567-2568: วิกฤตหรือโอกาส? เจาะลึกสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้ม

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ในช่วงปี 2567-2568 กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และกำลังซื้อที่เปราะบาง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีแสงสว่างจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ และกลุ่มผู้ซื้อบางกลุ่มที่ยังมีศักยภาพ คำถามสำคัญที่หลายคนตั้งคำถามคือ นี่คือช่วงเวลาของ “วิกฤต” หรือ “โอกาส” สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2567 และต่อเนื่องไปถึง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2568 พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและข้อเสนอแนะสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ปัจจุบัน: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเผชิญความท้าทายอะไรบ้าง?

สถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะจากปัจจัยมหภาคทางเศรษฐกิจ:

1. กำลังซื้อเปราะบางและหนี้ครัวเรือนสูง

ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงน้อย ที่มีภาระหนี้เดิมอยู่แล้ว ทำให้การขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นไปได้ยากขึ้น หรือได้รับการอนุมัติวงเงินที่น้อยลง ซึ่งสะท้อนจากตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารมีความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงหนี้เสีย

2. อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

แม้ว่าธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกจะเริ่มส่งสัญญาณถึงการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แต่สำหรับประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ การที่ดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น ทำให้ภาระผ่อนต่อเดือนของผู้ซื้อสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง หรือไม่กล้าตัดสินใจซื้อในสภาวะที่ต้นทุนทางการเงินยังไม่นิ่ง

3. ปริมาณอุปทานคงค้าง (Supply Overhang) โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม

ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังคงมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) และยูนิตที่ยังรอการขายจำนวนมากที่สะสมมาจากช่วงก่อนหน้านี้ แม้ว่าผู้ประกอบการจะเริ่มชะลอการเปิดโครงการใหม่ลง แต่การระบายสต็อกเดิมก็ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่กดดันราคาและอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) ของตลาด

4. การลงทุนและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า

แม้ภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว แต่การลงทุนจากต่างประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและความมั่นคงของรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์

โอกาสและสัญญาณบวกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2567-2568

ถึงแม้จะมีความท้าทาย แต่ก็ยังมีสัญญาณบวกและโอกาสที่น่าสนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย:

1. มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ

รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง รวมถึงการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ชั่วคราว ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ซื้อได้มากขึ้น มาตรการเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ในระดับหนึ่ง

2. กลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูงและตลาดลักซ์ชัวรี

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน (Luxury Segment) ยังคงมีความแข็งแกร่งและมีกำลังซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนไทยหรือต่างชาติที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาว หรือเพื่อการอยู่อาศัยในทำเลศักยภาพสูง โครงการระดับลักซ์ชัวรีหลายแห่งยังคงมีการตอบรับที่ดีและสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละเซกเมนต์

3. การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานและทำเลใหม่ๆ

การลงทุนในโครงข่ายคมนาคม เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ๆ หรือถนนตัดใหม่ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างโอกาสให้เกิดทำเลทองแห่งใหม่ๆ ในอนาคต พื้นที่ชานเมืองและปริมณฑลที่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง หรือมีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะกลายเป็นจุดสนใจของผู้ซื้อที่มองหาที่อยู่อาศัยที่คุ้มค่าและเดินทางสะดวก

4. เทรนด์การอยู่อาศัยและการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป

แนวคิด Work From Home และ Hybrid Work ที่ยังคงอยู่ ทำให้ความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น มีฟังก์ชันการทำงาน และพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้บ้านแนวราบในพื้นที่ปริมณฑลยังคงได้รับความนิยม นอกจากนี้ เทรนด์เรื่อง Well-being และ Pet-Friendly ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

บทสรุปและข้อเสนอแนะ: อสังหาริมทรัพย์ไทยจะไปต่ออย่างไร?

สำหรับคำถามที่ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย 2567-2568 เป็น “วิกฤต” หรือ “โอกาส” คำตอบคือ “ทั้งสองอย่าง” ขึ้นอยู่กับว่าเรามองจากมุมใด และสามารถปรับตัวได้เร็วแค่ไหน
  • สำหรับผู้ประกอบการ: ต้องเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น (Niche Market) ลดการสร้างอุปทานที่ซ้ำซ้อน และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสต็อก ควบคู่ไปกับการนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจและปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพจริง
  • สำหรับผู้ซื้อ: นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการ “ต่อรอง” และหาอสังหาริมทรัพย์ที่คุ้มค่า โดยเฉพาะในตลาดมือสอง หรือโครงการที่ผู้ประกอบการต้องการระบายสต็อก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณากำลังซื้อของตนเองอย่างรอบคอบ และคำนวณภาระหนี้สินให้ดีก่อนตัดสินใจ
  • สำหรับนักลงทุน: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในระยะนี้ควรเน้นการศึกษาทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว หรืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าได้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ๆ เช่น Wellness Living หรือทำเลที่ได้อานิสงส์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ
แม้จะมีเมฆหมอกปกคลุมอยู่บ้าง แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีศักยภาพและบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หากทุกภาคส่วนสามารถปรับตัว เข้าใจสถานการณ์ และมองหาโอกาสที่ซ่อนอยู่ในความท้าทายได้อย่างชาญฉลาด เราจะเห็นการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุน หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อสังหาริมทรัพย์ไทย ในช่วงนี้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณได้เลย
 

อยากขายบ้าน
อยากขายคอนโด
อยากขายที่ดิน

ลงประกาศให้ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย